วันจันทร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2554

การทำ กุ้งอบวุ้นเส้น

การทำ กุ้งอบวุ้นเส้น

ส่วนผสม
กุ้งตัวใหญ่ 5 ขีด
วุ้นเส้นแช่น้ำจนนุ่มตัดเป็นท่อนสั้นๆ 1 ถ้วย
กระเทียม 1 หัว
พริกไทย 10 เม็ด
รากผักชี 5 ราก
น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำซุป 1/2 ถ้วย
ต้นหอม ผักชี 1-2 ต้น

แล้วก็มาถึงวิธีการทำ ให้เริ่มด้วยล้างกุ้งทั้งเปลือกให้สะอาด ตัดหนวดและผ่ากลางตัว เอาเส้นขี้กุ้งที่เป็นไส้ดำๆ ออก จากนั้นก็โขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทย แล้วนำไปคลุกเคล้ากับวุ้นเส้นและเครื่องปรุงที่เหลือให้เข้ากัน

ขั้นต่อมาเอากุ้งวางเรียงก้นหม้อ ใส่วุ้นเส้นที่คลุกแล้วและเติมน้ำซุปให้ท่วมวุ้นเส้น แล้วปิดฝาหม้อ นำไปตั้งไฟอ่อน ๆ นานประมาณ 20 นาทีหรือจนสุก ซึ่งในช่วงที่กุ้งยังไม่สุกถ้าน้ำเริ่มงวดให้เติมน้ำซุปลงไปอีกครั้ง ชิมรสที่ตัววุ้นเส้น ถ้ายังไม่อร่อยก็เติมเครื่องปรุงจนถูกใจ เมื่อเสร็จแล้วก็ใส่ผักชีโรยหน้าสักนิด ยกไปเสิร์ฟกินร้อน ๆ แสนจะอร่อย

บอกอีกนิด ถ้าจะให้ดีงานนี้ต้องอบใส่หม้อดิน เพราะจะรู้สึกถึงรสชาติความเป็นกุ้งอบวุ้นเส้น แต่ถ้าไม่มีจะใช้หม้อสแตนเลสทำก็ได้ หรือถ้าให้ง่ายเข้าไปอีกใครจะอบด้วยเตาไมโครเวฟก็ได้ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด

วันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2554

การทำ ข้าวเหนียวเปียกลำไย

การทำ ข้าวเหนียวเปียกลำไย

ส่วนผสม

ข้าวเหนียว 1 ถ้วย
ลำไยสดแกะเอาแต่เนื้อ 2 ถ้วย (หรือมากกว่านี้ ตามความชอบ)
หัวกะทิ 2 ถ้วย
น้ำตาลทราย ครึ่งถ้วย
เกลือป่น พอประมาณ
ใบเตยตัดเป็นท่อนๆ 1-2 ใบ


วิธีทำเริ่มที่การต้มข้าวเหนียว โดยใช้ไฟอ่อนปานกลาง ใส่น้ำสะอาดลงในหม้อให้ท่วมข้าวเหนียวขึ้นมาประมาณ 2 นิ้ว ค่อยๆ คนไม่ให้ข้าวติดก้นหม้อ และระวังไม่ให้ข้าวข้นหรือแฉะเกินไป ใส่ใบเตยลงไปด้วยเพื่อความหอม แนะนำว่าถ้าใช้ข้าวเหนียวเขี้ยวงูก็จะดีไม่น้อย เพราะเม็ดข้าวจะบานสวย แต่ถ้าไม่มีก็ใช้ข้าวเหนียวธรรมดาทั่วๆไปได้

ระหว่างนั้นก็หันมาคั้นน้ำกะทิที่ใช้โรยหน้า โดยผสมเกลือป่นให้มีรสเค็มนิดๆ แต่ถ้าไม่มีเวลาคั้นกะทิสดเองจะเลือกใช้กะทิกระป๋องก็ได้ พอข้าวเหนียวสุก เม็ดจะเริ่มบานก็ใส่น้ำตาลทรายลงไป ใส่เกลือเล็กน้อย ชิมรสชาติความหวานตามความพอใจ คนข้าวต่อไปอีกสักพัก แล้วจึงใส่เนื้อลำไย เมื่อสุกได้ที่ยกลงจากเตาได้เลย

แค่นี้ก็ได้ข้าวเหนียวเปียกลำไย ราดด้วยน้ำกะทิสด หอมกรุ่น น่ากิน แต่ถ้าอยากจะเพิ่มสีสันและรสชาติให้มีมากขึ้น อาจจะใส่เผือก แห้ว ข้าวโพด ลูกเดือย ลำไยแห้ง ลงไปด้วยก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด

วันเสาร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2554

การทำ ข้าวเหนียวมะม่วง

ข้าวเหนียวมะม่วง

ส่วนประกอบที่ต้องเตรียม

ข้าวเหนียว 1 กิโลกรัม

มะพร้าวขูด 1 กิโลกรัม

น้ำตาลทราย 2 ขีด

เกลือเสริมไอโอดีน 1 ช้อนชา

มะม่วงสุก ถ้าเป็นอกร่องก็จะหวานแหลม หอมอร่อย ถ้าไม่มีอกร่องก็ใช้มะม่วงสุก อะไรก็ได้

มาถึงขั้นตอนการลงมือทำ ก็เริ่มจากแช่ข้าวเหนียวด้วยน้ำเย็นประมาณ 5-6 ชั่วโมง แล้วนึ่งให้สุก เวลานึ่งใช้ใบเตยสด รองด้วยจะทำให้ข้าวเหนียวสุกหอมกลิ่นใบเตย คั้นกะทิให้ข้น แยกหัวกะทิ และหางกะทิไว้ต่างหาก หัวกะทินำมาตั้งไฟเติมแป้ง ข้าวโพดเล็กน้อย ค่อยๆ คนให้เข้ากันจนกะทิเดือด เติมเกลือ (เสริมไอโอดีน) เล็กน้อย ชิมพอมันๆ ไม่ต้องเค็มมาก ส่วนหางกะทินำมาตั้งไฟเคี่ยวให้เดือด เติมน้ำตาลทราย ไม่ต้องหวานจัด แล้วเอา ข้าวเหนียวที่นึ่งสุกใหม่ๆ ลงไปคนในน้ำกะทิ ให้น้ำกะทิแห้งพอดี แล้วก็ตักข้าวเหนียวมูลราดด้วยน้ำหัวกะทิ เสิร์ฟกับมะม่วงสุกตามใจชอบ

และก็ถึงช่วงเวลาแห่งความสุขกับการลงมือหม่ำ “ข้าวเหนียวมะม่วง” หวานมัน ฝีมือตัวเองกันแล้ว แต่อย่าเผลอหม่ำมากไปจนน้ำหนักตัวพุ่งสูงตามอุณหภูมิก็แล้วกัน!!!

วันศุกร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2554

การทำ ข้าวต้มเห็ดหอม

การทำ ข้าวต้มเห็ดหอม
ข้าวสารหอมมะลิ 1 ถ้วยตวง
เห็ดหอมสด 3 ขีด
ซีอิ้วขาว 1-2 ช้อนโต๊ะ
กระเทียม 3-4 กลีบ
พริกไทยเม็ด 3-4 เม็ด
ต้นหอม 1 ต้น (หั่นหยาบๆ)
ผักชีฝรั่ง 1 ต้น (หั่นหยาบๆ)
รากผักชี พอประมาณ
เกลือ พอประมาณ
น้ำมันพืช พอประมาณ
พริกไทยป่น พอประมาณ


วิธีทำก็เริ่มจากซาวข้าวให้สะอาด แล้วต้มข้าวให้สุกบานจนแตกเม็ด (วิธีทดสอบว่าข้าวสุกหรือยัง ก็ง่ายๆ แค่ลองบดๆ บี้ๆ ถ้าข้าวเม็ดแตกคามือ ก็เป็นอันว่าใช้ได้) อาจจะใส่เกลือหรือผงปรุงรสลงไปเพิ่มรสชาติข้าวต้มด้วยก็ได้

ระหว่างที่รอให้ข้าวสุกก็หันมาจับสาก เอ้ย !?! ไม้ตีพริก โขลกกระเทียม พริกไทย รากผักชีและเกลืออีกนิดหน่อยให้ละเอียด กลิ่นจะได้หอมหวนชวนรับประทานเข้าไปอีก

จากนั้นก็นำกระทะตั้งไฟใส่น้ำมันลงไป พอร้อนใส่เครื่องที่โขลกลงผัดให้หอมด้วยไฟอ่อน ๆ ใส่เห็ดหอมสดที่ล้างสะอาดดีแล้วผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว ทีนี้ล่ะทั้งน้ำในเห็ดและน้ำในเครื่องปรุงรส ออกมาส่งกลิ่นหอมฉุยเชียว

เสร็จแล้วตักข้าวใส่ถ้วย ราดด้วยเครื่องเห็ดที่ผัด โรยหน้าด้วยต้นหอม ผักชี พริกไทยป่น ปรุงรสด้วยพริกน้ำส้มตามใจชอบ

แค่นี้ก็ได้กรุ่นกลิ่นหอมๆ ของ “ข้าวต้มเห็ดหอม” ลอยมาเตะจมูก ซดข้าวต้มให้คล่องคอในมื้อเช้า เพิ่มพลังให้กับการทำงานได้อย่างสบายๆ

วันพฤหัสบดีที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2554

การทำ ข้าวคลุกกะปิ

การทำ ข้าวคลุกกะปิ

ข้าวเจ้าที่หุงแล้ว 1 จาน
กะปิ 1 ช้อน
มะม่วงเปรี้ยว ครึ่งลูก
หัวหอมซอย 4 หัว
กุ้งแห้ง 1 กำมือ
ไข่ 2 ฟอง
เนื้อหมูติดมันนิดๆ
ซีอิ๊วหวาน 2 ช้อน
น้ำตาลปี๊บ 1-2 ช้อน
พริกแห้งทอดกรอบ

หลังจากที่เตรียมเครื่องปรุงแล้ว ก็นำกะปิมาคลุกกับข้าวเจ้าร้อนๆ ให้ทั่ว พยามอย่าให้กะปิจับตัวเป็นก้อน นำไปผัดให้แห้งโดยไม่ต้องปรุงรสเพราะมีความเค็มของกะปิอยู่แล้ว เสร็จแล้วพักไว้สักครู่ จากนั้นทอดไข่เจียว แล้วหั่นซอยเป็นเส้น ตั้งกระทะต่อนำกุ้งแห้งลงไปทอดให้กรอบ พักไว้บนกระดาษทิชชูเพื่อซับน้ำมัน ตั้งน้ำมันให้เดือดอีกครั้ง นำหมูที่หั่นไว้ลงไปผัดให้สุก ปรุงรสด้วยซีอิ๊วหวาน และน้ำตาลปี๊บเคี่ยวพอประมาณ ส่วนมะม่วงเปรี้ยวปอกเปลือกแล้วสับให้เป็นเส้น จากนั้นนำทุกอย่างค่อยๆคลุกเคล้าให้เข้ากัน จะได้รสชาติที่ถึงใจจริงๆ....

วันพุธที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2554

การทำ ข้าวผัดต้มยำกุ้ง

การทำ ข้าวผัดต้มยำกุ้ง

เครื่องปรุง

ตะไคร้ 1 ต้น
ใบมะกรูดหั่น 4-5 ใบ
ใบผักชีหั่น 4-5 ใบ
เห็ดฟาง 50 กรัม
กุ้งสด 3 ตัว
ไข่ไก่ 1 ฟอง
ข้าวสวย 1 จาน
ผงต้มยำ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช น้ำตาล น้ำปลา น้ำมะนาว

วิธีทำ เริ่มจากนำตะไคร้ ใบมะกรูด และใบผักชีฝรั่ง มาผัดกับน้ำมันพืชให้มีกลิ่นหอม แล้วตีไข่ใส่กระทะ รอสักครู่ให้ไข่เริ่มสุกแล้วจึงนำข้าวสวย เห็ดและกุ้งสด ลงไปผัดให้ทั่วกันดี จากนั้นเพิ่มรสชาติต้มยำด้วยการโรยผงต้มยำ ซึ่งหาซื้อได้ทั่วไปตามท้องตลาด หรือจะให้ง่ายกว่านั้น เอาผงมาม่ารสต้มยำที่เคยกินเหลือๆ ไว้มาผัดแทนก็ยังได้ ("กุ๊กเล็ก" คนหนึ่งล่ะที่กินเหลือประจำ) เสร็จเรียบร้อยแล้วชิมรสดู หากจี๊ดจ๊าดถูกใจก็เป็นอันจบ แต่ถ้ารสชาติยังไม่ถูกปากก็เติมน้ำตาล น้ำปลา มะนาวปรุงรสชาติได้ตามชอบใจ จัดใส่จานคู่กับแตงกวาเสิร์ฟได้เลย

วันอังคารที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2554

การทำข้าวผัดแกงเขียวหวานปลาสลิด

ข้าวผัดแกงเขียวหวานปลาสลิด

เครื่องปรุง
เนื้อปลาสลิดทอดสุก 1 ตัว
หัวกะทิคั้นสด 1/2 ถ้วยตวง
หางกะทิ 1 ถ้วยตวง
เนื้อหมูหั่นบางๆ 2 ช้อนโต๊ะ
พริกชี้ฟ้าหั่น 5 เม็ด
มะเขือพวง 2 ลูก
ข้าวสวยหุงสุก 2 ถ้วย
ใบโหระพาเด็ดพอประมาณ ใบมะกรูดซอย น้ำมันพืช น้ำปลา น้ำตาล แตงกวา ผักกาดหอม มะเขือเทศ

เครื่องแกง
กระเทียมซอย 1-2 หัว
พริกไทยเม็ด 20 เม็ด
ตะไคร้หั่นฝอย 1 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูเขียว 7-8 เม็ด
กระชายหั่น 1 ช้อนโต๊ะ
ลูกผักชี 1 ช้อนโต๊ะ
ยี่หร่า 1/2 ช้อนชา
กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
ข่าหั่นเป็นแว่น 2-3 แว่น
ผิวมะกรูด เกลือป่น

ข้าวผัดแกงเขียวหวานปลาสลิด
วิธีทำ

เริ่มจากการทำพริกแกงก่อนโดยการลูกผักชีกับยี่หร่ามาคั่วให้มีกลิ่นหอมแล้วนำไปป่นให้ละเอียดจากนั้นหันมาโขลกพริกไทยเม็ด กระเทียมซอย ข่า ตะไคร้ พริกขี้หนู กระชาย ผิวมะกรูด เกลือป่น และกะปิให้เข้ากันเมื่อทำพริกแกงเสร็จเรียบร้อยแล้วพักทิ้งไว้

จากนั้นตั้งหม้อบนเตาไฟอ่อนๆเติมน้ำมันพืชเล็กน้อยนำเครื่องพริกแกงมาเทลงแล้วคั่วให้หอมนำเนื้อหมูใส่ลงไป เติมหัวกะทิเคี่ยวจนกะทิแตกมัน แล้วก็หางกะทิลงไปเคี่ยวจนเข้าที่ จึงเติมน้ำสะอาดตามในปริมาณที่ไม่ต้องมากนัก

ปรุงรสด้วยน้ำปลากับน้ำตาล ใส่ใบมะกรูด พริกชี้ฟ้า ใบโหระพา มะเขือพวง เมื่อสุกแล้วยกลงจากเตาพักไว้สักครู่จากนั้นตักแกงเขียวหวานที่ได้มาผัดคลุกกับข้าวสวยหุงสุกที่เตรียมไว้
อ้อ..อย่าลืมนำปลาสลิด(ฉีก)ส่วนหนึ่งลงไปคลุกเคล้า จากนั้นตักแบ่งใส่จาน พร้อมนำเนื้อปลาส่วนที่เหลือมากินแกล้ม พร้อมด้วยแตงกวา ผักกาดหอม มะเขือเทศ หรือผักอื่นๆตามความเหมาะสม ก็เป็นอันเสร็จไปอีกหนึ่งมื้อ

วันเสาร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2554

การทำ กุ้งราดซอสมะขาม สามรส

การทำ กุ้งราดซอสมะขาม สามรส

เครื่องปรุง
กุ้งก้ามกราม 5-6 ตัว
พริกแห้งหั่นท่อนสั้นทอด ¼ ถ้วย
หอมแดงเจียว ¼ ถ้วย
กระเทียมเจียว 2 ช้อนโต๊ะ
ใบมะกรูดทอด 3-4 ใบ
เส้นหมี่ทอด ¼ ถ้วย
น้ำตาลปี๊บ 1/4 ถ้วย
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะขามเปียก ¼ ถ้วย
น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันสำหรับทอดกุ้ง 4 ถ้วย

ขั้นตอนการทำเริ่มแรกก็ล้างกุ้งให้สะอาด แกะเปลือกออก ส่วนหัวกับหางนั้นให้เหลือไว้ จัดการผ่าหลังชักเส้นดำออกโดยผ่าให้ลึกๆ แต่ไม่ให้ขาด กุ้งจะได้สวยๆ จากนั้นก็เอากุ้งไปทอดด้วยไฟร้อนปานกลาง พอทอดกุ้งสุกเหลืองก็ตักขึ้นมาให้สะเด็ดน้ำมัน แล้วพักไว้ก่อน เพราะต้องไปทำน้ำซอสมะขาม

ซึ่งการทำน้ำซอสมะขามก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่น้ำมัน 3 ช้อนโต๊ะ ตามด้วยน้ำตาล จากนั้นก็เคี่ยวจนเริ่มมีสีเข้มและข้นขึ้น แล้วก็ใส่น้ำปลา น้ำมะขามเปียก ตามด้วยน้ำเปล่า เคี่ยวต่อไปอีกสักครู่ ก็เป็นอันว่าทำน้ำซอสมะขามเรียบร้อย

ต่อจากนั้นก็บรรจงจัดหอมแดงเจียว กระเทียมเจียว พริกแห้งทอด ใบมะกรูดทอด เส้นหมี่ทอด วางที่มุมจาน ต่อด้วยกุ้งทอดวางเรียงให้สวย ราดน้ำซอสมะขามลงบนตัวกุ้ง โรยด้วยพริกเหลือง พริกแดง พริกเขียว ที่หั่นฝอยเล็กๆ เท่านี้ก็ได้กุ้งราดซอสมะขาม รสชาติเปรี้ยว หวาน เค็ม สุดกลมกล่อมมาทานอีกหนึ่งจานแล้ว

วันศุกร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2554

การทำ กุ้งฟูผัดพริกขิง

การทำ กุ้งฟูผัดพริกขิง
ส่วนผสมที่ต้องเตรียม

กุ้งแชบ๊วย 1 1/2 ขีด
พริกแกง 1 ช้อนโต๊ะ
กะทิ 1/2 ถ้วย
พริกไทยอ่อน กระชาย ใบมะกรูด รวมกัน 1/2 ขีด
ใบโหระพา 1 กำ
พริกสับ และกระเทียมสับ รวมกัน 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรส 1/2 ช้อนชา
ไข่เค็ม (เอาไว้กินเป็นเครื่องเคียง) 1 ลูก

ขั้นแรกการทำ เริ่มจากตั้งกระทะใส่น้ำมันนิดหน่อย นำกะทิลงไปเคี่ยวให้แตกมัน จากนั้นใส่พริกสับและกระเทียมสับลงไป ใส่พริกแกงตามลงไปเคี่ยวจนพริกแกงและกะทิแตกมัน แล้วปรุงรสให้ได้รสเค็มๆ หวานๆ ทีนี้ก็ใส่พริกไทยอ่อน กระชาย ใบมะกรูดลงไป เร่งไฟให้แรงขึ้นและใส่ใบโหระพาลงไป พักทิ้งไว้สักครู่

จากนั้นก็หันมาทำกุ้ง นำกุ้งขาวที่เตรีมไว้มาลวกให้สุก แกะเปลือกออกแล้วสับให้ละเอียดๆ และนำมาคลุกกับน้ำมันพืชพอชุ่มๆ

ทีนี้ก็ตั้งกระทะใส่น้ำมันให้ท่วม รอให้ร้อน ก็ตักกุ้งที่คลุกน้ำมันแล้วลงทอดในน้ำมันร้อนๆ ให้ดูพอเหลืองตักขึ้นพักไว้ และนำมาใส่จาน ตักน้ำผัดเผ็ดที่ทำไว้แล้วมาราด เป็นว่าเสร็จสรรพได้กับแกล้มจานเด็ด “กุ้งฟูผัดพริกขิง” อ้อ!! อย่าลืมหั่นไข่เค็มเป็นซีกๆ เอาไว้กินแกล้มเข้ากันดี เพียงแค่นี้ ก็มีกับแกล้มรสเลิศ เอาไว้กินคู่กับเบียร์เย็นๆ อิ่มท้องสบายกระเพาะกันไป

สูตรอาหาร เมนูอาหาร